สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 6.7 ดอลลาร์ หรือ 0.51% ปิดที่ 1,323.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 9.8 เซนต์ ปิดที่ 21.782 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 15.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,427.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 3.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 740.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สถานการณ์ความรุนแรงในยูเครนได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำ โดยมีรายงานว่ารัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศในสหภาพยุโรป (อียู) ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรยูเครน อันเนื่องมาจากเหตุความรุนแรงระหว่างกองกำลังความมั่นคงและกลุ่มผู้ชุมนุมในปัจจุบัน
ก่อนหน้านี้ อียูไม่ได้ต้องการออกมาตรการคว่ำบาตรยูเครน เนื่องจากมุ่งเน้นการทำหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างรัฐบาลและกลุ่มผู้ประท้วง แต่อียูตัดสินใจเปลี่ยนท่าทีเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะครั้งใหม่ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
ขณะที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของยูเครนลงสู่ระดับ CCC จากเดิมที่ระดับ CCC+ โดยระบุว่า สถานการณ์ทางการเมืองในยูเครนเลวร้ายลงจนก่อให้เกิดความเสี่ยงมากขึ้นต่อความสามารถของรัฐบาลในการชำระหนี้ นอกจากนั้นยังไม่แน่ว่ารัสเซียจะให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ยูเครนอย่างต่อเนื่องตลอดปีนี้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ในช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย ประธานาธิบดีวิคเตอร์ ยานูโควิช แห่งยูเครน และผู้นำฝ่ายฝ่ายค้านได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อยุติวิกฤตการเมืองในประเทศที่ยืดเยื้อมานานถึง 3 เดือน และยังทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ประท้วงได้ให้ความเห็นชอบต่อข้อเสนอของประธานาธิบดียานูโควิชเรื่องการจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนธ.ค. ซึ่งโอเลค ซี ฮารัน สมาชิกของสภาไมดานของกลุ่มผู้ประท้วง กล่าวว่า ผู้ประท้วงเห็นชอบให้มีการลงนามในข้อตกลง ซึ่งครอบคลุมถึงเรื่องรัฐบาลชุดใหม่ และการกลับไปใช้รัฐธรรมนูญปี พ.ศ.2547 ภายใน 48 ชั่วโมง