ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองร่วง $13.6 หลังจ้างงานสดใสบดบังความหวังเฟดชะลอลด QE

ข่าวเศรษฐกิจ Saturday March 8, 2014 07:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 มี.ค.) เนื่องจากตัวเลขจ้างงานสหรัฐที่ออกมาดีเกินคาดได้ลดความน่าดึงดูดใจในการลงทุนในทองคำ และยังทำให้ความหวังที่ว่าเฟดอาจชะลอการลดขนาดมาตรการกระตุ้นนั้นต้องเจือจางไป

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปรับตัวลง 13.6 ดอลลาร์ หรือ 1.01% ปิดที่ 1,338.2 ดอลลาร์/ออนซ์ สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาทองไต่ขึ้น 1.3%

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ดิ่งลง 64.6 เซนต์ หรือ 3.0% ปิดที่ 20.928 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 3.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,483.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนม.ค.ขยับขึ้น 0.65 ดอลลาร์ ปิดที่ 781.80 ดอลลาร์/ออนซ์

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานสหรัฐเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าน่าจะเพิ่มขึ้นราว 150,000 ตำแหน่ง

ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งส่งผลให้สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำไม่น่าดึงดูดใจอีกต่อไป โดยตลาดจับตาข้อมูลเศรษฐกิจ โดยเฉพาะตัวเลขจ้างงานเป็นพิเศษ เพื่อใช้เป็นเบาะแสว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรรายเดือนลงอย่างต่อเนื่องทีละน้อยหรือไม่

ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์ระบุถึงสถานการณ์ในยูเครน โดยหากสถานการณ์ในยูเครนไม่รุนแรงขึ้น ก็คงเป็นเรื่องยากที่ทองจะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนได้เข้าซื้อทองเพื่อปกป้องความเสี่ยงจากสถานการณ์ไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง

ราคาทองดีดตัวสูงขึ้นมากนับตั้งแต่ต้นปีนี้ รวมปรับตัวขึ้นแล้วถึง 11% เนื่องจากนักลงทุนหันมาลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของสภาพเศรษฐกิจสหรัฐ และความผันผวนในตลาดเกิดใหม่ โดยเมื่อวันที่ 3 มี.ค. สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นไปแตะที่ระดับ 1,355 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบสี่เดือน ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ทวีความรุนแรง

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลตัวเลขจ้างงานที่เป็นบวกเมื่อวันศุกร์ ต่อเนื่องมาจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเมื่อวันพฤหัสบดี ทำให้นักลงทุนมองว่าการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยอาจไม่จำเป็นอีกต่อไป นอกจากนี้ ทองคำมีแนวโน้มที่จะเผชิญแรงกดดันจากหุ้นสหรัฐซึ่งยังคงเดินหน้าทำลายสถิติอย่างต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ