WGC ระบุในรายงานว่า การซื้อทองคำลดลง 263.2 ตันในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค. จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การบริโภคทองรูปพรรณปรับตัวขึ้น 10% ส่วนอุปสงค์ทองคำแท่งและเหรียญทองคำดิ่งลง 55% ซึ่งคิดเป็นประมาณ 40% จากการปรับตัวลดลงทั่วโลก
อุปสงค์ทองคำที่ลดลงจากจีน ซึ่งได้แซงหน้าอินเดียด้วยการก้าวขึ้นมาผู้บริโภคทองคำรายใหญ่ที่สุดเมื่อปีที่แล้วนั้น อาจสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ ซึ่งได้ปรับตัวขึ้น 7.4% ในปีนี้ โดยอุปสงค์บางส่วนมาจากความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์ วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐคาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะยังคงปรับตัวลงต่อเนื่อง หลังจากร่วงลง 28% ในปี 2556 ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 30 ปี