อุปสงค์ทองคำโลกในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. ลดลง 2% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แตะที่ 929.3 ล้านตัน
สภาทองคำโลกเผยว่า อุปสงค์ทองคำของจีนร่วงลง 37% แตะ 182.7 ล้านตันในไตรมาสสาม โดยความต้องการเครื่องประดับทองคำร่วงลง 39% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว
ในปี 2556 จีนขึ้นแท่นเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ที่สุดในโลก เนื่องจากราคาทองคำที่ดิ่งลงในช่วงไตรมาสสองของปีได้กระตุ้นให้ผู้บริโภคชาวจีนแห่ซื้อทองที่มีราคาถูกลง
สำหรับความต้องการทองในอินเดียปรับตัวขึ้น 39% ในไตรมาสสามปีนี้ โดยเฉพาะการซื้อเครื่องประดับที่ทะยานขึ้นถึง 60% อันเนื่องมาจากชาวอินเดียเตรียมตัวต้อนรับเทศกาลดิวาลีในช่วงเดือนต.ค.และพ.ย. และยังเป็นฤดูกาลที่ชาวอินเดียนิยมจัดงานแต่งงาน ซึ่งโดยปกติแล้วชาวอินเดียจะมีธรรมเนียมซื้อทองเป็นของขวัญให้แก่กันในช่วงสองเดือนนี้
สภาทองคำโลกเผยว่า ราคาทองคำที่ปรับตัวลดลงในสกุลเงินรูปีได้กระตุ้นอุปสงค์ทองคำในอินเดีย และความเชื่อมั่นในรัฐบาลใหม่ของนเรนทรา โมดี ก็มีส่วนช่วยหนุนความต้องการให้ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้ การที่อุปสงค์ทองคำในอินเดียพุ่งทะยานขึ้นนั้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะอุปสงค์ที่อ่อนแอในไตรมาสสามปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลอินเดียได้ออกมาตรการควบคุมการนำเข้าทองคำ เพื่อลดยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศ
WGC ระบุในรายงานแนวโน้มอุปสงค์ทองคำว่า ความต้องการเครื่องประดับทองคำทั่วโลกลดลง 4% ในไตรมาสสาม สู่ระดับ 534.2 ตัน ความต้องการทองคำเพื่อเทคโนโลยีร่วงลง 5% แตะ 97.9 ตัน และความต้องการเหรียญและทองคำแท่งร่วง 21% แตะ 245.6 ตัน ขณะที่กองทุนรวม ETF เทขายทอง 41.3 ตัน อย่างไรก็ตาม การลงทุนในทองคำโดยรวมยังปรับตัวขึ้น 6% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 204.4 ตัน ด้านธนาคารกลางซื้อสุทธิลดลง 9% สู่ระดับ 92.8 ตัน