ณ เวลา 20.47 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 7.5 ดอลลาร์ หรือ 0.67% สู่ระดับ 1,115.70 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ดอลลาร์ดีดตัวเทียบยูโรและเยน หลังสหรัฐเผยยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นมากเกินคาดในเดือนก.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า
ณ เวลา 20.22 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.22% สู่ระดับ 124.46 เยน และปรับตัวขึ้น 0.54% สู่ระดับ 1.1100 เทียบยูโร ขณะที่ยูโรร่วงลง 0.32% สู่ระดับ 138.15 เยน ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.37% สู่ระดับ 96.664
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเพิ่มขึ้น 0.5%
เมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนก.ค.
ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ส่งผลให้มีแรงซื้อในรถยนต์ และสินค้าอื่นๆ บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวขณะเข้าสู่ไตรมาส 3
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้ปรับเพิ่มยอดค้าปลีกในเดือนมิ.ย. เป็นทรงตัว หลังจากรายงานในตัวเลขเบื้องต้นว่าลดลง 0.3%
หากไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน และอาหาร ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค.
ส่วนกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 5,000 ราย สู่ระดับ 274,000 ราย
ตัวเลขดังกล่าวยังคงต่ำกว่าระดับ 300,000 ราย และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ระดับ 270,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ซึ่งสามารถวัดแนวโน้มตลาดแรงงานได้ดีกว่าเพราะมีความผันผวนน้อยกว่าตัวเลขรายสัปดาห์นั้น ลดลง 1,750 ราย สู่ระดับ 266,250 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2000