นอกจากนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ก็เป็นปัจจัยกดดันราคาทอง
ณ เวลา 20.09 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเลกทรอนิกส์ ร่วงลง 2.80 ดอลลาร์ หรือ 0.23% สู่ระดับ 1,086.20 ดอลลาร์/ออนซ์
ณ เวลา 19.58 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าพุ่งขึ้น 241 จุด หรือ 1.51% สู่ระดับ 16,154 จุด
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2558 ขยายตัว 6.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2533 หรือในรอบ 25 ปี และชะลอลงจากอัตรา 7.3% ในปี 2557
สำหรับในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2558 GDP จีนขยายตัว 6.8% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอลงจากไตรมาส 3 ที่เติบโต 6.9%
NBS ระบุว่า GDP ของจีนในปี 2558 มีมูลค่า 67.67 ล้านล้านหยวน (ราว 10.3 ล้านล้านดอลลาร์) โดยภาคบริการคิดเป็นสัดส่วน 50.5% ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีสัดส่วนสูงกว่า 50%
ขณะที่ยอดค้าปลีกของจีนในเดือนธ.ค.ขยายตัว 11.1% เมื่อเทียบรายปี ส่วนในปี 2558 ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 10.7% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอลงจากอัตรา 12% ในปี 2557
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค.ขยายตัว 5.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนพ.ย.ที่ขยายตัว 6.2%
ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น จะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นทะลุแนว 118 เยนในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนเพิ่มการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง เช่น ดอลลาร์ ท่ามกลางการดีดตัวของตลาดหุ้นทั่วโลก จากการคาดการณ์ที่ว่าจีนจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ซบเซา
ณ เวลา 18.40 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ทะยานขึ้น 0.62% สู่ระดับ 118.05 เยน และแข็งค่า 0.34% สู่ระดับ 1.0864 เทียบยูโร ขณะที่ยูโรดีดตัวขึ้น 0.42% สู่ระดับ 128.26 เยน ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.09% สู่ระดับ 99.193