สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดลบ 6.7 ดอลลาร์ หรือ 0.53% แตะที่ระดับ 1,264.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดลบ 6.1 เซนต์ หรือ 0.39% แตะที่ 15.633 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดพุ่งขึ้น 15.7 ดอลลาร์ หรือ 1.59% แตะที่ 1,002.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดบวก 14.60 ดอลลาร์ หรือ 2.6% แตะที่ 577.60 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นราว 4% ในสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (4 มี.ค.) สัญญาทองคำปิดบวกเกือบ 1% เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและสกุลเงินอื่นๆ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดส่งออกและยอดนำเข้าเดือนม.ค.ร่วงลงอย่างหนัก
นอกจากนี้ การที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นติดต่อกันหลายวันทำการ ยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำและหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า โดยตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น และข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐ
สำหรับข้อมูลอื่นๆที่ส่งผลต่อภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำนั้น ทางการจีนเปิดเผยว่า ปริมาณทองคำสำรองของจีนเพิ่มขึ้น สู่ระดับ 57.5 ล้านออนซ์ในเดือนก.พ. จากระดับ 57.18 ล้านออนซ์ในเดือนม.ค.
เมื่อคิดเป็นมูลค่า ทองคำสำรองของจีนมีมูลค่าเพิ่มขึ้น สู่ระดับ 7.101 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. จากระดับ 6.357 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค.
ทั้งนี้ จีนยังสามารถรักษาตำแหน่งประเทศผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลกติดต่อกัน 9 ปี โดยประชาชนชาวจีนซื้อทองคำประมาณ 986 ตันในปี 2558 เพิ่มขึ้น 3.7% เมื่อเทียบรายปี และเทียบกับยอดซื้อทองคำในปี 2557 ที่ร่วงลง 24.7%