สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 มิ.ย.) โดยทองคำปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อทองคำเพื่อความปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลงประชามติของชาวอังกฤษที่จะตัดสินใจว่าจะออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) หรือไม่ในช่วงปลายเดือนนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 3.20 ดอลลาร์ หรือ 0.25% ปิดที่ 1,275.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 2.7%
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 6.20 เซนต์ หรือ 0.36% ปิดที่ 17.33 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 9.60 ดอลลาร์ หรือ 0.96% ปิดที่ 994.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 14.65 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 545.95 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนยังคงเดินหน้าเข้าซื้อทองคำอย่างคึกคัก เนื่องจากการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนหันไปซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่นทองคำ โดยเมื่อคืนนี้ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุดหลังจากราคาน้ำมัน WTI ร่วงหลุดจากระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล
นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับประเด็น Brexit ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเช่นกัน โดยชาวอังกฤษจะทำการลงประชามติเพื่อตัดสินใจว่าจะออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) หรือไม่ ในวันที่ 23 มิ.ย.นี้
ด้านผู้นำอังกฤษและเยอรมนีต่างก็ออกมาย้ำเตือนชาวอังกฤษถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากแยกตัวออกจาก EU โดยนางอังเกรา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวย้ำเมื่อวานนี้ว่า ชาวอังกฤษควรลงประชามติสนับสนุนการรวมตัวกับ EU ในวันที่ 23 มิ.ย. นี้ โดยระบุว่า การที่อังกฤษยังคงอยู่ใน EU จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
ขณะที่นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษเตือนว่า หากอังกฤษถอนตัวออกจาก EU จะส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในครัวเรือนสูงอยู่ราว 4,300 ปอนด์ (6,200 ดอลลาร์) และปัญหาการอพยพเข้าเมืองของคนต่างถิ่นซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่นั้น จะไม่สามารถแก้ไขได้หากอังกฤษถอนตัวจากการเป็นสมาชิก EU