สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 มิ.ย.) โดยทองคำปิดบวกติดต่อกัน 4 วันทำการ เนื่องจากการร่วงลงอย่างต่อเนื่องของตลาดหุ้นสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยงและเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลงประชามติของชาวอังกฤษเพื่อตัดสินใจว่าจะออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) หรือไม่ในวันที่ 23 มิ.ย.นั้น ยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนแรงซื้อทองคำเช่นกัน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 11 ดอลลาร์ หรือ 0.86% ปิดที่ระดับ 1,286.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 11.30 เซนต์ หรือ 0.65% ปิดที่ 17.443 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์ หรือ 0.11% ปิดที่ 995.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 10 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 545.85 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนยังคงเดินหน้าเข้าซื้อทองคำอย่างคึกคัก เนื่องจากการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนหันไปซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่นทองคำ โดยเมื่อคืนนี้ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 130 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง ก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 14-15 มิ.ย.นี้
นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับประเด็น Brexit ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเช่นกัน โดยชาวอังกฤษจะทำการลงประชามติเพื่อตัดสินใจว่าจะออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) หรือไม่ ในวันที่ 23 มิ.ย.นี้
ผลการสำรวจของสำนักต่างๆพบว่า ชาวอังกฤษที่มีความเห็นสนับสนุนให้อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป ขณะนี้มีจำนวนมากกว่าผู้ที่สนับสนุนให้อังกฤษยังคงอยู่ในยุโรป
ทั้งนี้ ผลสำรวจของ YouGov ระบุว่า ผู้ที่ต้องการให้อังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (EU) มีจำนวน 43% ขณะที่ฝ่ายที่ต้องการให้อยู่ใน EU มีจำนวน 42% ส่วนผลการสำรวจออนไลน์ของหนังสือพิมพ์ อินดิเพนเดนท์ ระบุว่า ผู้ที่เชื่อว่าอังกฤษควรออกจาก EU มีจำนวน 55% ขณะที่ผู้ที่ต้องการให้อยู่ใน EU มีจำนวน 45%