ราคาทองฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้นในวันนี้ จากปัจจัยความผันผวนทางการเมืองในอังกฤษ หลังจากการลงประชามติออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
นอกจากนี้ แรงซื้อคืนของจีนได้ช่วยหนุนราคากลับสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ทำไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ณ เวลา 20.36 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเลกทรอนิกส์ ดีดตัวขึ้น 13.90 ดอลลาร์ หรือ 1.04% สู่ระดับ 1,352.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ในสหรัฐได้ปิดทำการในวันนี้ เนื่องในวันชาติสหรัฐ
อังกฤษมีแนวโน้มเผชิญภาวะสุญญากาศผู้นำ หลังจากที่นายเดวิด คาเมรอน ประกาศลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี ภายหลังจากที่อังกฤษได้ลงประชามติออกจากสหภาพยุโรป
แกนนำพรรคอนุรักษ์นิยมตั้งความหวังว่าจะสามารถสรรหานายกรัฐมนตรีแทนนายคาเมรอนได้ภายในวันที่ 2 ก.ย.นี้ ขณะที่นายจอร์จ ออสบอร์น รมว.คลังอังกฤษ ยืนยันว่า เขาจะไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งดังกล่าว ทางด้านนายไนเจล ฟาราจ หัวหน้าพรรคเพื่ออิสรภาพแห่งสหราชอาณาจักร หรือ UKIP ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการรณรงค์ให้ชาวอังกฤษลงประชามติออกจากสหภาพยุโรป โดยเขากล่าวว่า "ผมได้ทำตามหน้าที่แล้ว"
กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพิ่มการถือครองทอง 3.9 ตัน สู่ระดับ 953.91 ตันเมื่อวันศุกร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2013
กองทุน SPDR เพิ่มการถือครองทอง 308 ตันในช่วงครึ่งปีแรก โดยทำสถิติเพิ่มขึ้นมากที่สุดรายครึ่งปีในรอบ 7 ปี
นายเจอร์ก ไคเนอร์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของสวิส เอเชีย แคปิตอล กล่าวว่า ราคาทองอาจพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วง 18 เดือนข้างหน้า ท่ามกลางภาวะอัตราผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลกที่อยู่ในระดับต่ำถึงขั้นติดลบ
นายไคเนอร์ระบุว่า ทองได้รับแรงหนุนจากการที่สหราชอาณาจักรลงประชามติถอนตัวจากสหภาพยุโรปเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.
เขายังระบุว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ติดลบเป็นปัจจัยสกัดแรงหนุนพันธบัตรเมื่อเทียบกับทอง
นายไคเนอร์เปิดเผยว่า ราคาทองได้ปัจจัยเสริมจากการที่ทองไม่มีผลตอบแทนติดลบ และปริมาณการผลิตทองได้ลดลง
ราคาทองดีดตัวเหนือระดับ 1,350 ดอลลาร์/ออนซ์ในการซื้อขายวันนี้ หลังจากที่พุ่งทะลุ 1,900 ดอลลาร์เมื่อเดือนส.ค.2011