ราคาทองฟิวเจอร์ร่วงลงในวันนี้ โดยถูกถ่วงลงจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานในสหรัฐที่แข็งแกร่ง และแนวโน้มการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากธนาคารกลางหลายแห่ง ทำให้ทองลดความน่าดึงดูดในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ณ เวลา 21.36 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเลกทรอนิกส์ ร่วงลง 0.90 ดอลลาร์ หรือ 0.07% สู่ระดับ 1,357.50 ดอลลาร์/ออนซ์
นอกจากนี้ การแข็งค่าขึ้นของดอลลาร์ในวันนี้ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันราคาทอง
ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น จะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ดอลลาร์และยูโรพุ่งขึ้นเกือบ 2% เทียบเยน หลังนักลงทุนพากันเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่ตลาดหุ้นโตเกียวทะยานขึ้นวันนี้ ขานรับชัยชนะของพรรครัฐบาลญี่ปุ่นในการเลือกตั้งวุฒิสภา
ณ เวลา 19.50 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ดีดตัว 1.97% สู่ระดับ 102.51 เยน ขณะที่ยูโรพุ่งขึ้น 1.95% สู่ระดับ 113.19 เยน และอ่อนค่า 0.09% สู่ระดับ 1.1042 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.29% สู่ระดับ 96.561
ดอลลาร์ได้รับแรงซื้อในวันนี้ หลังจากดิ่งลงแตะ 99.99 เยนเมื่อวันศุกร์ในตลาดการเงินนิวยอร์ก ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย. ถึงแม้มีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
นักลงทุนพากันเทขายเยน และเข้าซื้อดอลลาร์ หลังจากที่ตลาดหุ้นโตเกียวทะยานขึ้นเกือบ 4% จากการที่นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศว่ารัฐบาลจะเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ หลังพรรคแอลดีพีได้รับชัยชนะครั้งใหญ่ในการเลือกตั้งวุฒิสภา
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ถึงแม้มีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่ง เนื่องจากเฟดยังมีความกังวลต่อเศรษฐกิจโลก หลังจากที่อังกฤษลงประชามติถอนตัวจากสหภาพยุโรป
ราคาทองพุ่งขึ้น 28% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ จากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะนี้
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.ของสหรัฐพุ่งขึ้น 287,000 ตำแหน่ง จากระดับ 38,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 175,000 ตำแหน่ง