สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 พ.ย.) โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐ และความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ยังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 14.9 ดอลลาร์ หรือ 1.17% ปิดที่ระดับ 1,288.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 62.2 เซนต์ หรือ 3.50% ปิดที่ 18.418 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 19.3 ดอลลาร์ หรือ 1.97% ปิดที่ 997.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 6.10 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 634.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำทะยานขึ้นกว่า 1% หลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ซึ่งส่งผลให้สัญญาทองคำมีราคาที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
ขณะเดียวกันข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐยังได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐร่วงลง 0.4% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ย.
นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งสหรัฐยังได้กระตุ้นให้นักลงทุนถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยความกังวลในเรื่องดังกล่าวมีขึ้นหลังจากผู้อำนวยการ FBI ส่งสัญญาณว่า อาจจะรื้อฟื้นคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัวของนางฮิลลารีขึ้นมาใหม่ ในขณะที่เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วันก็จะถึงกำหนดการเลือกตั้งในวันที่ 8 พ.ย.
ผลสำรวจล่าสุดของเอบีซี นิวส์/วอชิงตัน โพสต์ ระบุว่า ข่าวการรื้อคดีของ FBI ส่งผลให้คะแนนนิยมของนายทรัมป์ขยับขึ้นมาอยู่เหนือนางฮิลลารีอยู่ 1 จุด ขณะที่ผลสำรวจจากเรียลเคลียร์โพลิติกส์ระบุว่า นางฮิลลารีมีคะแนนนิยมนำหน้านายทรัมป์อยู่เพียง 2.2 จุด จากเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนที่มีคะแนนนำอยู่กว่า 7 จุด
นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันที่ 2 พ.ย.ตามเวลาสหรัฐ เพื่อดูว่าคณะกรรมการเฟดจะส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้หรือไม่
ทั้งนี้ ผลสำรวจของ CNBC Fed Survey พบว่า นักวิเคราะห์ที่ถูกสำรวจทั้ง 100% เชื่อว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย. แต่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมในวันที่ 13-14 ธ.ค.