สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐและการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 20.2 ดอลลาร์ หรือ 1.57% ปิดที่ระดับ 1,308.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 27.5 เซนต์ หรือ 1.49% ปิดที่ 18.693 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 3.9 ดอลลาร์ หรือ 0.39% ปิดที่ 1,001.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 634.50 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนยังคงเดินหน้าเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เนื่องจากสถานการณ์การเมืองของสหรัฐกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน หลังจากผลสำรวจจากหลายสำนักบ่งชี้ว่า คะแนนนิยมของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกันเริ่มตีตื้นขึ้นมานำแซงหน้านางฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่า FBI เตรียมรื้อฟื้นคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัวของนางฮิลลารี
นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก และข้อมูลด้านแรงงานที่อ่อนแอของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 147,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. และเป็นระดับย่ำแย่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของปีนี้ รวมทั้งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 166,000 ตำแหน่ง
นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้ โดยตัวเลขดังกล่าวจะบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ของเฟดในรอบ 10 ปี
ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.9% จากเดิมที่ระดับ 5.0%