ราคาทองฟิวเจอร์ฟื้นตัวขึ้นในวันนี้ จากแรงช้อนซื้อของนักลงทุน หลังจากราคาทรุดตัวลงเมื่อวานนี้
ณ เวลา 22.34 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเลกทรอนิกส์ ดีดตัวขึ้น 4.60 ดอลลาร์ หรือ 0.38% สู่ระดับ 1,226.30 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงในวันนี้ ได้เพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ดอลลาร์ปรับตัวในช่วงแคบในกรอบล่างของ 108 เยนในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวัง หลังจากดอลลาร์พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนจากความคาดหวังที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัวภายใต้นโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ
ณ เวลา 19.27 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์อ่อนค่า 0.17% สู่ระดับ 108.23 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.17% สู่ระดับ 116.56 เยน และดีดตัวขึ้น 0.35% สู่ระดับ 1.0772 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.06% สู่ระดับ 99.909
ราคาทองร่วงลงเกือบ 9% จากระดับ 1,337.40 ดอลลาร์/ออนซ์ที่ทำไว้ในวันที่ 9 พ.ย. หลังนายทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยนักลงทุนคาดว่า มาตรการกระตุ้นทางการคลัง และนโยบายการค้าของเขาจะผลักดันเงินเฟ้อให้ปรับตัวขึ้น
นายเอริค โรเซนเกรน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาบอสตัน กล่าวว่า เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า โดยมีเพียงข่าวร้ายครั้งใหญ่เท่านั้น ที่จะสกัดความคาดหวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว
"หากไม่มีข่าวร้ายครั้งใหญ่ทางด้านเศรษฐกิจในช่วงเดือนหน้า การประเมินของตลาดเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.ก็ยังคงมีความเป็นไปได้" เขากล่าว
"ผมหวังว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่เฟดหลีกเลี่ยงการส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้กำลังใกล้บรรลุเป้าหมายของเฟดทางด้านเงินเฟ้อ และการจ้างงาน"
นายโรเซนเกรนยังระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ในปีหน้า จากปัจจุบันที่ระดับ 1.7% ขณะที่อัตราว่างงานลดต่ำลง