ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้นในวันนี้ โดยได้ปัจจัยบวกจากการชะลอตัวของดอลลาร์ หลังแข็งค่าขึ้นในสัปดาห์ที่แล้วจากการคาดการณ์ที่ว่า การใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้น
กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ลดการถือครองทองมากกว่า 19 ล้านตันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการเทขายทองรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบ 4 เดือน
ณ เวลา 20.29 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเลกทรอนิกส์ ดีดตัวขึ้น 5.90 ดอลลาร์ หรือ 0.49% สู่ระดับ 1,214.60 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง จะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ดอลลาร์ดีดตัวเหนือ 111 เยน แตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนในวันนี้ ก่อนที่จะอ่อนค่าลงในเวลาต่อมา ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้น จากการคาดการณ์ที่ว่านายทรัมป์จะกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐด้วยการดำเนินมาตรการทางการคลัง
ณ เวลา 18.58 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.32% สู่ระดับ 110.55 เยน หลังจากแตะ 111.18 เยนก่อนหน้านี้ ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.17% สู่ระดับ 117.50 เยน และดีดตัวขึ้น 0.41% สู่ระดับ 1.0628 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.29% สู่ระดับ 101.04
ราคาทองสามารถฟื้นตัวขึ้นในวันนี้ หลังจากที่ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนครึ่งในการซื้อขายก่อนหน้านี้
นักวิเคราะห์ระบุว่า ราคาที่ร่วงลงได้ดึงดูดคำสั่งซื้อทองจากผู้บริโภคในตลาด
ราคาทองได้ดิ่งลงมากกว่า 120 ดอลลาร์นับตั้งแต่แตะระดับสูงสุดเมื่อวันที่ 9 พ.ย. หลังทราบผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ทำสถิติเพิ่มขึ้นมากที่สุดสำหรับช่วงเวลา 2 สัปดาห์ในรอบมากกว่า 5 ปี และดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น