ราคาทองฟิวเจอร์ดิ่งลงอย่างหนักในวันนี้ ต่ำกว่าระดับ 1,200 ดอลลาร์ โดยได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์
นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีความวิตก หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งได้เป็นปัจจัยหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนหน้า
CME Group FedWatch ระบุว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.
ณ เวลา 21.27 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเลกทรอนิกส์ ร่วงลง 18.30 ดอลลาร์ หรือ 1.51% สู่ระดับ 1,192.90 ดอลลาร์/ออนซ์
กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ลดการถือครองทอง 0.42% สู่ระดับ 904.91 ตันเมื่อวานนี้ ขณะที่ลดการถือครองทองลงแล้ว 4% ในเดือนนี้
ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวในวันนี้ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 13 ปีครึ่งที่ทำไว้ก่อนหน้านี้ หลังจากพุ่งขึ้นจากการคาดการณ์ที่ว่านโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และผลักดันอัตราดอกเบี้ยให้ดีดตัวขึ้น
ณ เวลา 19.04 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ทรงตัวที่ระดับ 101.00
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ได้ดีดตัวขึ้นเกือบ 3% นับตั้งแต่ที่นายทรัมป์คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว แต่ได้ย่อตัวลงเล็กน้อยในสัปดาห์นี้ หลังจากแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2003
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ดีดตัวขึ้นในเดือนต.ค. โดยพุ่งขึ้น 4.8% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2015 หลังจากปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.5% ในเดือนต.ค.
การทะยานขึ้นของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนมีสาเหตุจากการปรับตัวขึ้นของอุปสงค์สำหรับเครื่องจักร และอุปกรณ์อื่นๆ
ขณะเดียวกัน ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนต.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากลดลง 1.4% ในเดือนก.ย.
นักวิเคราะห์คาดว่าทองยังคงได้รับแรงหนุนจากความเสี่ยงทางการเมืองในช่วงหลายเดือนข้างหน้าของยุโรป ซึ่งได้แก่ การลงประชามติรัฐธรรมนูญในอิตาลีในเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ รวมทั้งการเลือกตั้งผู้นำในฝรั่งเศส และเยอรมนีในปีหน้า