สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 ธ.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่ขยายยตัวได้ดีเกินคาดในไตรมาส 3 นั้น ยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 2.5 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ระดับ 1,130.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 10.8 เซนต์ หรือ 0.68% ปิดที่ 15.871 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 7 ดอลลาร์ หรือ 0.77% ปิดที่ 907.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 3.30 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 656.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดร่วงลงเนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำมีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นมาตรวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆ 6 สกุลในตะกร้าเงินนั้น พุ่งขึ้น 0.11% แตะที่ 103.11 เมื่อคืนนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังลดความต้องการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขประมาณการขั้นสุดท้ายสำหรับการขยายตัวของจีดีพีประจำไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 3.5% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ที่ระดับ 3.2% และสูงกว่าประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 2.9% นอกจากนี้ ยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 3.3% จากแรงหนุนของการส่งออก และการใช้จ่ายของผู้บริโภค
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ ดีดตัวขึ้น 0.9% ในเดือนพ.ย. ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในกลุ่มเครื่องจักร และโลหะพื้นฐาน