สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (30 ธ.ค.) หลังจากทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่องหลายวันจนแตะแนวต้านเส้นสำคัญ ขณะที่การซื้อขายเป็นไปอย่างเงียบเหงาก่อนถึงวันหยุดในเทศกาลปีใหม่
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 6.4 ดอลลาร์ หรือ 0.55% ปิดที่ 1,151.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปรับตัวลง 22.9 เซนต์ หรือ 1.41% ปิดที่ 15.989 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 3.3 ดอลลาร์ หรือ 0.37% ปิดที่ 905.70 ดอลลาร์/ออนซ์
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2559 นักลงทุนต่างกว้านซื้อทองคำจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลก และราคาทองคำพุ่งสูงสุดในรอบ 2 ปีในเดือนก.ค. หลังจากอังกฤษตัดสินใจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU)
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำร่วงลงกว่า 8% ในเดือนพ.ย. หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยมีการคาดการณ์ว่านโยบายของเขาจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ นักลงทุนจึงลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า
ในวันที่ 15 ธ.ค. ราคาทองคำร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกของปีนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะปรับตัวลดลงอีกในปี 2560 เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้สัญญาทองคำมีราคาไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น
อย่างไรก็ดี ตลอดปี 2559 สัญญาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 8.5% หลังจากที่ปรับตัวลง 3 ปีติดต่อกัน