สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลง ซึ่งเป็นผลมาจากการชะลอตัวของภาคการผลิตสหรัฐ และยอดขายรถยนต์ของสหรัฐที่ร่วงลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 2.8 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ระดับ 1,254 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 4.4 เซนต์ หรือ 0.24% ปิดที่ 18.212 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 5.8 ดอลลาร์ หรือ 0.61% ปิดที่ 958.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 4.40 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 802.55 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลง อันเนื่องมาจากข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแรงลงของสหรัฐ โดยบริษัทไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ขั้นสุดท้ายสำหรับภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 53.3 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 53.4 หลังจากแตะระดับ 54.2 ในเดือนก.พ.
ขณะที่ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM ปรับตัวลงสู่ระดับ 57.2 ในเดือนมี.ค จากระดับ 57.7 ในเดือนก.พ.
ด้านออโต้ดาต้า คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านยานยนต์ของสหรัฐ รายงานว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ในตลาดสหรัฐร่วงลง 1.6% ในเดือนมี.ค. สู่ระดับ 1,555,859 คัน ซึ่งเป็นการปรับตัวลง 3 เดือนติดต่อกัน นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมทั้งการเปิดเผยรายงานการประชุมของเฟดประจำวันที่ 14-15 มี.ค.ในวันพุธ