ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวลงในวันนี้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ส่งผลให้ราคาทองดิ่งลงมากกว่า 1% ในสัปดาห์นี้ ขณะที่นักลงทุนหันไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น และดอลลาร์ ขณะคลายความกังวลต่อปัจจัยเสี่ยงต่างๆ
ณ เวลา 22.15 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเลกทรอนิกส์ ลบ 0.40 ดอลลาร์ หรือ 0.03% สู่ระดับ 1,255.1 ดอลลาร์/ออนซ์
การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า เขาพร้อมที่จะพบปะกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ภายใต้สถานการณ์ที่เหมาะสม ก็ได้ช่วยให้ตลาดคลายความกังวลในคาบสมุทรเกาหลี และหนุนคำสั่งซื้อสินทรัพย์เสี่ยง
ราคาทองได้ดิ่งลงมากกว่า 3% นับตั้งแต่แตะระดับสูงสุดในกลางเดือนเม.ย. และขณะนี้กำลังปรับตัวเหนือระดับเส้นค่าเฉลี่ยรอบ 200 วัน
นอกจากนี้ การที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในวันนี้ ก็ได้ลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ดอลลาร์ดีดตัวแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนเหนือระดับ 112 เยน หลังจากที่นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ระบุถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการออกพันธบัตรระยะยาวพิเศษ
ณ เวลา 21.27 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.27% สู่ระดับ 112.13 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.22% สู่ระดับ 122.14 เยน และร่วงลง 0.06% สู่ระดับ 1.0892 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.12% สู่ระดับ 99.20
ดอลลาร์พุ่งขึ้นทำสถิติเหนือ 112 เยนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ในการซื้อขายที่ตลาดการเงินโตเกียว
การดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐช่วยหนุนคำสั่งซื้อดอลลาร์ในวันนี้ หลังจากที่นายมนูชินกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีการออกพันธบัตรระยะยาวพิเศษเป็นครั้งแรกเพื่อสนับสนุนสถานะการคลังของสหรัฐ
ขณะเดียวกัน การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นเอเชียก็ได้ช่วยให้นักลงทุนเพิ่มความต้องการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง และลดอุปสงค์สำหรับเยน
นักลงทุนจับตาปัจจัยหลายประการในสัปดาห์นี้ เช่น การประชุมธนาคารกลางสหรัฐที่เริ่มต้นในวันนี้ และจะสิ้นสุดในวันพรุ่งนี้, การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์ และการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบ 2 ของฝรั่งเศสในวันอาทิตย์นี้