สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 พ.ค.) หลังจากสภาทองคำโลก (WGC) รายงานว่า ความต้องการทองคำทั่วโลก ปรับตัวลดลงในไตรมาสแรกปีนี้ นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัจจัยการเมืองในยุโรปที่เริ่มลดน้อยลงนั้น ยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 19.90 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ระดับ 1,228.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 24.3 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 16.303 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 3.3 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 907.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.35 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 800.65 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำร่วงลงหลังจากสภาทองคำโลก (WGC) รายงานว่า ความต้องการทองคำทั่วโลกในไตรมาสแรกของปีนี้ลดลง 18% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สู่ระดับ 1,034 ตัน เนื่องจากนักลงทุนชะลอการลงทุนในกองทุน ETF ขณะที่ธนาคารกลางซื้อทองคำน้อยลง
อลิสแตร์ ฮิววิตต์ หัวหน้าฝ่ายข้อมูลการตลาดของ WGC ระบุว่า ความต้องการทองคำลดลงในไตรมาสแรกของปีนี้ เนื่องจากฐานเปรียบเทียบที่สูงมากในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งดีมานด์ทองคำแตะที่ 1,262 ตัน
รายงานของ WGC ระบุว่า ในไตรมาสแรกของปีนี้ ธนาคารกลางซื้อทองคำ 76 ตันเข้าสู่คลังสำรอง ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับ 104 ตันในไตรมาสแรกปีที่แล้ว
นอกจากนี้ นักลงทุนได้ลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัจจัยการเมืองในยุโรปเริ่มบรรเทาลง หลังจากผลสำรวจพบว่า นายเอมมานูเอล มาครอง ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส และเป็นอดีตรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ทำผลงานในการโต้วาทีดีกว่านางมารีน เลอเปน ผู้สมัครจากพรรค National Front (FN)
ทั้งนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นในฝรั่งเศสแสดงให้เห็นว่า ผู้ชมการโต้วาที มีความประทับใจในวิสัยทัศน์ของนายมาครอง มากกว่านางเลอเปน
ศึกดีเบตรอบสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในวันอาทิตย์นี้เป็นอย่างดุเดือด โดยผู้สมัครทั้งสองต่างปะทะคารมกันอย่างเผ็ดร้อนในประเด็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ยุโรป และภัยก่อการร้าย ขณะที่โพลล์จากสถานีโทรทัศน์ BFMTV บ่งชี้ว่า ผู้ชมจำนวน 63% มีความเชื่อมั่นในตัวนายมาครอง มากกว่านางเลอเปน ซึ่งเป็นนักการเมืองสายอนุรักษ์นิยมขวาจัด และมีแนวคิดที่จะนำฝรั่งเศสแยกตัวออกจากยูโรโซน นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.ของสหรัฐ ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.6%