สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากมีข่าวการโจมตีจากมัลแวร์เรียกค่าไถ่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบคอมพิวเตอร์ในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งข่าวการทดสอบยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 2.30 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ระดับ 1,230 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 20.1 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 16.603 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 11.20 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 928.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 6.50 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 797 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กเปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) ซึ่งสำรวจจากบริษัทต่างๆในรัฐนิวยอร์กจนถึงเดือนพ.ค.ปีนี้ ปรับตัวลง 6 จุดสู่ระดับ -1.0 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 8.0
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังากเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธครั้งใหม่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าอาจเกิดความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี รวมทั้งข่าวที่ว่า ระบบคอมพิวเตอร์ของหลายประเทศทั่วโลกถูกโจมมตีจากมัลแวร์เรียกค่าไถ่
ทั้งนี้ มัลแวร์เรียกค่าไถ่ ชื่อ "WannaCry" ได้ระบาดไปยังคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการไมโครซอฟต์ทั่วโลกเมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยส่งผลกระทบต่อคอมพิวเตอร์กว่า 200,000 เครื่องใน 150 ประเทศ ขณะที่มัลแวร์ดังกล่าวจะบล็อกไฟล์เอกสารต่างๆ ในคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ด้วยการเข้ารหัสลับ ซึ่งทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถเปิดหรือดาวน์โหลดข้อมูลที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ หากไม่ได้ทำการจ่ายเงินค่าไถ่แก่แฮกเกอร์
นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนเม.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีการผลิตเบื้องต้นเดือนพ.ค.โดยเฟดฟิลาเดลเฟีย