ราคาทองฟิวเจอร์ทรุดตัวลงในวันนี้ โดยได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อวานนี้ พร้อมส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้
ณ เวลา 23.28 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเลกทรอนิกส์ ร่วงลง 20.80 ดอลลาร์ หรือ 1.63% สู่ระดับ 1,255.10 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ณ เวลา 21.43 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 1.06% สู่ระดับ 110.72 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.46% สู่ระดับ 123.44 เยน และร่วงลง 0.63% สู่ระดับ 1.1146 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.53% สู่ระดับ 97.46
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติด้วยคะแนนเสียง 8-1 เสียง เห็นพ้องให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมวานนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ นับเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ของเฟดในปีนี้ และเป็นการปรับขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ในวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เริ่มต้นในเดือนธ.ค.2015 และต่อมาในเดือนธ.ค.2016 ก่อนที่จะปรับขึ้นอีกในเดือนมี.ค.ปีนี้ และครั้งล่าสุดเมื่อวานนี้
กรรมการเฟดส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ โดย 12 จาก 16 ราย คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ขณะที่กรรมการจำนวนเท่ากัน คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า
นอกจากนี้ เฟดคาดการณ์ว่าจะเริ่มปรับลดงบดุลในปีนี้ จากปัจจุบันที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ หากเศรษฐกิจมีการปรับตัวตามที่เฟดคาดการณ์ ซึ่งการปรับลดงบดุลของเฟด จะส่งผลให้เฟดลดการถือครองพันธบัตร และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ที่เฟดได้เข้าซื้อในตลาดในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
ผลสำรวจดีลเลอร์ส่วนใหญ่ระบุว่า เฟดจะเริ่มปรับลดงบดุลในการประชุมเดือนก.ย.ปีนี้ ขณะที่บางส่วนคาดว่าจะเกิดขึ้นในการประชุมเดือนธ.ค.