สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 มิ.ย.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ นอกจากนี้ รายงานข่าวจากทำเนียบขาวที่ระบุว่า รัฐบาลซีเรียภายใต้การนำของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด วางแผนที่จะใช้อาวุธเคมีในการโจมตีพลเรือนครั้งใหม่นั้น ยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 0.05% ปิดที่ 1,246.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 16.651 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 2.70 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 920.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 5.60 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 858.35 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดทองคำนิวยอร์กได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวลง 0.9% เมื่อคืนนี้ ซึ่งช่วยให้สัญญาทองคำมีมูลค่าที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากทำเนียบขาวเปิดเผยว่า รัฐบาลซีเรียภายใต้การนำของประธานาธิบดีอัสซาด วางแผนที่จะใช้อาวุธเคมีในการโจมตีพลเรือนอีกครั้ง พร้อมกล่าวเตือนว่า สหรัฐพร้อมเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารเพื่อตอบโต้การกระทำของซีเรีย
แถลงการณ์จากทำเนียบขาวระบุว่า สหรัฐตรวจสอบได้ว่ากองทัพของประธานาธิบดีอัสซาด เตรียมใช้อาวุธเคมีในปฏิบัติการทางทหารอีกครั้ง ซึ่งอาจส่งผลให้พลเรือนหลายคนเสียชีวิต รวมถึงเด็กๆผู้ไร้เดียงสาอีกหลายคน
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐออกแถลงการณ์เตือนซีเรียว่า การที่กองทัพสหรัฐประจำการอยู่ในซีเรียนั้นก็เพื่อที่จะกำจัดกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ซึ่งสร้างฐานที่มั่นอยู่ในอิรักและซีเรีย แต่หากประธานาธิบดีอัสซาดยังคงดื้อดึงที่จะเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ด้วยอาวุธเคมีต่อไป ทั้งตัวเขาและกองทัพซีเรีย "จะต้องได้รับบทเรียนอย่างหนัก"