สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) โดยสัญญาทองคำปิดในแดนบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะการเมืองในสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 4.4 ดอลลาร์ หรือ 0.36% ปิดที่ระดับ 1,219.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 14.2 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 15.887 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 20.30 ดอลลาร์ หรือ 2.26% ปิดที่ 919 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 14.70 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 861.55 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดทองคำได้รับปัจจัยหนุนหลังจากนางเยลเลนได้แถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวานนี้ โดยกล่าวว่า เฟดพร้อมที่จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ
นางเยลเลนกล่าวว่า เฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และปรับลดงบดุลอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปีนี้ ถึงแม้เงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ ตราบใดที่เศรษฐกิจยังคงมีการปรับตัวตามที่เฟดคาดการณ์ อย่างไรก็ดี นางเยลเลนไม่ได้ระบุแน่ชัดถึงกำหนดเวลาที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ในปีนี้ หลังจากที่ปรับขึ้นในเดือนมี.ค. และมิ.ย.
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะการเมืองในสหรัฐยังได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เผยแพร่อีเมลที่บ่งชี้ว่ารัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องในการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีที่แล้ว
ทั้งนี้ อีเมลดังกล่าวระบุว่า นายทรัมป์ จูเนียร์ ได้รับข้อเสนอจากทนายความชาวรัสเซีย ซึ่งเป็นข้อมูลที่จะสร้างความเสียหายต่อนางฮิลลารี คลินตัน ซึ่งเป็นคู่แข่งของปธน.ทรัมป์ในขณะนั้น