สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลง 0.06% เมื่อคืนนี้ (18 ส.ค.) จากแรงเทขายทำกำไรของนักลงทุน หลังจากที่ราคาทองคำทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งก่อนหน้านี้ สืบเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อการร้ายในเมืองบาร์เซโลนาและแคมบริลส์ในแคว้นกาตาลุญญาของสเปนเมื่อวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่ผ่านมา
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 80 เซนต์ หรือ 0.06% ปิดที่ระดับ 1291.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 5.3 เซนต์ หรือ 0.31% ปิดที่ 17 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ หรือ 0.07% ปิดที่ 982.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 95 เซนต์ หรือ 0.1%% ปิดที่ 927.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นทะลุระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ในระหว่างวัน ด้วยแรงหนุนจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น สืบเนื่องจากความวิตกกังวลต่อเหตุการณ์ก่อการร้ายในประเทศสเปน และความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งทำให้นักลงทุนต้องการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำกันมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปรับตัวลงในเวลาต่อมาจนกระทั่งหลุดระดับแนวรับที่ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากกระแสความต้องการถือครองทองคำได้บรรเทาลง ประกอบกับนักลงทุนต้องการเทขายเพื่อทำกำไร
นักวิเคราะห์จากโกลด์คอร์ กล่าวว่า "การแห่เทขายสัญญาทองคำเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ หากพิจารณาจากการที่ตลาดขาดปัจจัยชี้นำหรือข้อมูลอ่อนไหวที่สร้างปฏิกิริยาต่อตลาดมากเช่นนั้น ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่า นักลงทุนบางส่วนมีความต้องการขายทำกำไรที่ระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์"