สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่สามเมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรวัดเงินเฟ้อนั้น ปรับตัวขึ้นในเดือนส.ค.
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 4.70 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ระดับ 1,328 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค.ปีนี้
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.3 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 17.867 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 3.30 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 983.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 9.70 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 933.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดตลาดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่สาม เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐส่งผลให้สัญญาทองคำมีมูลค่าที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
ทั้งนี้ สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี PPI ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากขยับลง 0.1% ในเดือนก.ค. โดยการดีดตัวของดัชนี PPI ได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้น 9.5% ของราคาน้ำมันเบนซิน
นอกจากนี้ การที่ตลาดวอลล์สตรีททำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่สอง ยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเช่นหุ้น
นักลงทุนจับตาข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ โดยข้อมูลดังกล่าวอาจเป็นตัวบ่งชี้กรอบเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)