ราคาทองร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในวันนี้ โดยถูกกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการดีดตัวของราคาหุ้น
นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันตลาด
ทั้งนี้ ราคาทองสปอตร่วงลงแตะ 1,314.36 ดอลลาร์/ออนซ์ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค.
ส่วนราคาทองในตลาดฟิวเจอร์ ณ เวลา 22.18 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเลกทรอนิกส์ ร่วงลง 12.40 ดอลลาร์ หรือ 0.94% สู่ระดับ 1,312.80 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น จะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ดอลลาร์ดีดตัวแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเยนในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมเฟดในวันที่ 19-20 ก.ย. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ แต่มีแนวโน้มที่เฟดจะปรับลดงบดุลจากวงเงิน 4.5 ล้านล้านดอลลาร์
ณ เวลา 20.20 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.57% สู่ระดับ 111.47 เยน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.60% สู่ระดับ 133.19 เยน และขยับขึ้น 0.06% สู่ระดับ 1.1951 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.04% สู่ระดับ 91.91
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดอลลาร์พุ่งขึ้น 2.8% เทียบเยน หลังการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นเกินคาด ได้ทำให้นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนธ.ค.
CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 52.9% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้
ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นต่อเนื่องในวันนี้ตามตลาดหุ้นทั่วโลก จากแรงหนุนของคำสั่งซื้อสินทรัพย์เสี่ยง