สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นทำนิวไฮอีกครั้งเมื่อคืนนี้ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำเช่นกัน ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาผู้ที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.60 ดอลลาร์ หรือ 0.20% ปิดที่ระดับ 1,278.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 10.9 เซนต์ หรือ 0.64% ปิดที่ 16.966 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 1.7 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ 925.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 11.25 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 961.20 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ ภายหลังจากบริษัทจดทะเบียนยักษ์ใหญ่หลายแห่งได้เปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 3 ซึ่งรวมถึงบริษัทแคทเธอร์พิลลาร์ และ 3M
นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังส่งผลให้สัญญาทองคำมีความน่าดึงดูดใจน้อยลง โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.04% สู่ระดับ 93.969 เมื่อคืนนี้
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยชื่อว่าที่ประธานเฟด ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจประกาศชื่อประธานเฟดคนใหม่ก่อนที่เขาจะเดินทางเยือนภูมิภาคเอเชียในวันที่ 3 พ.ย.นี้ โดยขณะนี้ปธน.ทรัมป์กำลังพิจารณาบุคคลอย่างน้อย 3 คน ซึ่งได้แก่ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน, นายเจอโรม พาวเวล ผู้ว่าการเฟด และนายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด