ราคาทองฟิวเจอร์ย่อตัวลงในวันนี้ หลังมีข่าวว่า สมาชิกวุฒิสภาสังกัดพรรครีพับลิกันสนับสนุนให้นายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่
นอกจากนี้ ราคาทองยังถูกกดดันจากการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในวันนี้
ณ เวลา 22.43 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเลกทรอนิกส์ ร่วงลง 0.80 ดอลลาร์ หรือ 0.06% สู่ระดับ 1,277.50 ดอลลาร์/ออนซ์
นางซาราห์ แซนเดอร์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะทำการประกาศรายชื่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดในไม่ช้า
นางแซนเดอร์ยอมรับว่า นายเจอโรม พาวเวล ผู้ว่าการเฟด และนายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เป็น 2 ตัวเก็งที่ปธน.ทรัมป์พิจารณาคัดเลือกเป็นประธานเฟด
นักวิเคราะห์ระบุว่า นายพาวเวลเป็นเจ้าหน้าที่เฟดสายพิราบ ซึ่งสนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายการเงินของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน ส่วนนายเทย์เลอร์เป็นนักวิชาการสายเหยี่ยว ซึ่งเน้นการคุมเข้มนโยบายการเงิน และสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่านางเยลเลน
ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า ปธน.ทรัมป์จะประกาศชื่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งเขาจะเลือกทั้งนายพาวเวล และนายเทย์เลอร์ โดยให้คนหนึ่งเป็นประธานเฟดแทนนางเยลเลน ซึ่งจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปีหน้า และอีกคนหนึ่งแทนนายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟด วัย 74 ปี ซึ่งได้ลาออกจากตำแหน่งในวันที่ 13 ต.ค.
ปธน.ทรัมป์กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาจะทำการตัดสินใจในไม่ช้าเกี่ยวกับผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขากำลังพิจารณาบุคคลอย่างน้อย 3 คนสำหรับการดำรงตำแหน่งประธานเฟด ซึ่งได้แก่ นางเยลเลน, นายพาวเวล และนายเทย์เลอร์
ปธน.ทรัมป์กล่าวเมื่อปลายเดือนที่แล้วว่า เขาจะทำการตัดสินใจเกี่ยวกับผู้ที่จะมานั่งเก้าอี้ประธานเฟดคนใหม่ "ในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า" ขณะที่ตลาดการเงินคาดการณ์ในขณะนั้นว่า ตัวเก็ง 5 คนที่อาจได้รับการพิจารณาเป็นประธานเฟดคนใหม่ ได้แก่ นางเยลเลน, นายพาวเวล, นายเทย์เลอร์ รวมทั้งนายแกรี โคห์น หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของปธน.ทรัมป์ และนายเควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการเฟด
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้นในเดือนก.ย. โดยทะยานขึ้น 18.9% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 667,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2550 หลังจากแตะระดับ 561,000 ยูนิตในเดือนส.ค.
การพุ่งขึ้น 18.9% ของยอดขายบ้านใหม่ในเดือนก.ย. ถือเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นเปอร์เซนต์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2535
ยอดขายบ้านใหม่ทะยานขึ้น หลังจากได้รับผลกระทบก่อนหน้านี้จากการดีดตัวขึ้นของราคาบ้าน หลังเกิดภาวะขาดแคลนที่ดิน และแรงงาน รวมทั้งราคาวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 2.2% ในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 2.0% ในเดือนส.ค.
การทะยานขึ้นของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนได้รับปัจจัยหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อเครื่องบินพาณิชย์ และรถยนต์
ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้น 1.3% ในเดือนก.ย. โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากเพิ่มขึ้น 1.3% เช่นเดียวกันในเดือนส.ค.
เมื่อเทียบรายปี ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานดีดตัวขึ้น 3.8% ในเดือนก.ย.