ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 ในวันนี้ โดยได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความล่าช้าของการบังคับใช้กฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ หลังจากที่วุฒิสภาสหรัฐสร้างเงื่อนไขใหม่ที่เป็นอุปสรรคต่อการผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว ด้วยการพ่วงการยกเลิกเนื้อหาส่วนหนึ่งของกฎหมายโอบามาแคร์เข้ากับแผนการปฏิรูปภาษี
ณ เวลา 20.26 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเลกทรอนิกส์ ขยับขึ้น 4.30 ดอลลาร์ หรือ 0.34% สู่ระดับ 1,287.20 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง จะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ดอลลาร์อ่อนค่าลงต่ำกว่าระดับ 113 เยน แตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นญี่ปุ่นและสหรัฐ รวมทั้งการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ณ เวลา 19.21 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.63% สู่ระดับ 112.73 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.20% สู่ระดับ 133.54 เยน และดีดตัวขึ้น 0.42% สู่ระดับ 1.1845 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.29% สู่ระดับ 93.55
ดอลลาร์อ่อนค่าลงในช่วงแรก โดยปรับตัวลงต่อเนื่องจากการซื้อขายที่ตลาดการเงินสหรัฐเมื่อคืนนี้ ขณะที่การปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐส่งผลให้มีการมองกันว่า ช่องว่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐอาจจะไม่กว้างมากเท่ากับที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้
ดอลลาร์ร่วงลงรุนแรงขึ้นในช่วงบ่าย หลังจากที่ดัชนีนิกเกอิติดลบมากขึ้น และปิดตลาดร่วงลงเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงเมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ การปรับตัวลงของตลาดหุ้นมักจะทำให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง ส่งผลให้มีการเทขายดอลลาร์ และเข้าซื้อเยน
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเอริค โรเซนเกรน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาบอสตัน ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนพ.ย.จากเฟดนิวยอร์ก, ยอดค้าปลีกเดือนต.ค., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ย.