ราคาทองฟิวเจอร์ร่วงลงในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และมุมมองในเชิงบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาทั้งเดือนพ.ย. ราคาทองมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค.
การขาดปัจจัยขับเคลื่อนตลาดในเดือนพ.ย. ส่งผลให้ราคาทองปรับตัวในช่วง 1,265-1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นการปรับตัวแคบที่สุดในรอบ 12 ปี
ณ เวลา 20.11 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเลกทรอนิกส์ ร่วงลง 2.60 ดอลลาร์ หรือ 0.20% สู่ระดับ 1,283.60 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น จะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นทะลุ 112 เยน โดยได้ปัจจัยบวกจากการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นญี่ปุ่น ซึ่งช่วยให้นักลงทุนเพิ่มการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง และเทขายเยนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ณ เวลา 19.54 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.32% สู่ระดับ 112.28 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.29% สู่ระดับ 133.01 เยน และอ่อนค่าลง 0.01% สู่ระดับ 1.1846 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.14% สู่ระดับ 93.29
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของ GDP ประจำไตรมาส 3 โดยระบุว่า GDP ขยายตัว 3.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี นอกจากนี้ ยังสูงกว่าตัวเลขตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 3.0% และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.2%
ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2557 ที่ GDP สหรัฐเติบโตในระดับ 3% หรือมากกว่า เป็นเวลา 2 ไตรมาสติดต่อกัน โดยปัจจัยที่ช่วยหนุน GDP ให้ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 3 นั้น มาจากการเพิ่มขึ้นของการลงทุนในสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ รวมทั้งการใช้จ่ายในภาครัฐ แม้ว่าผู้บริโภคได้ชะลอการใช้จ่าย
ทางด้านนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ได้แถลงมุมมองทางเศรษฐกิจต่อคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจร่วมของสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐได้ขยายตัวในวงกว้าง และหากมีการปรับนโยบายการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป เศรษฐกิจก็จะยังคงมีการขยายตัว ขณะที่ตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง นอกจากนี้ นางเยลเลนยังได้กล่าวสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาวุฒิสภาสหรัฐว่าจะสามารถผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีในวันนี้ได้หรือไม่
นอกจากนี้ สภาคองเกรสสหรัฐจะต้องรวมร่างกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรเป็นร่างเดียวกัน ก่อนที่จะส่งต่อไปให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามเป็นกฎหมายต่อไป