สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ ขานรับความคืบหน้าในการผลักดันร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกัน นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเทขายทองคำเช่นกัน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ร่วงลง 9.5 ดอลลาร์ หรือ 0.74% ปิดที่ระดับ 1276.7 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8.7 เซนต์ หรือ 0.53% ปิดที่ 16.474 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.3 ดอลลาร์ หรือ 0.14% ปิดที่ 942.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 0.5% ปิดที่ 1,003.55 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนยังคงเดินหน้าเทขายสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นอย่างแกร่ง เนื่องจากนักลงทุนขานรับนายจอห์น แมคเคน วุฒิสมาชิกสังกัดพรรครีพับลิกัน ที่ประกาศสนับสนุนร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีในการลงมติในวุฒิสภาวันนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ร่างกฎหมายดังกล่าวมีโอกาสมากขึ้นที่จะได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภา
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 238,000 ราย ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 240,000 ราย ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนต.ค. ส่วนตัวเลขการออมของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.573 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. จากระดับ 4.299 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย.