สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 ธ.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ย พร้อมส่งสัญญาณว่าอาจขยายวงเงิน QE หากมีความจำเป็น นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการปรับฐานลงของตลาดหุ้นสหรัฐ ยังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 8.5 ดอลลาร์ หรือ 0.68% ปิดที่ระดับ 1257.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 6.5 เซนต์ หรือ 0.41% ปิดที่ 15.934 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 5.8 ดอลลาร์ หรือ 0.66% ปิดที่ 881.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 24.66 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 1,028.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นหลังจากที่ประชุม ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.4% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
ขณะเดียวกัน ECB ระบุว่า ธนาคารอาจจะขยายเวลาโครงการซื้อพันธบัตรเกินกว่าเดือนก.ย.ปีหน้า หากมีความจำเป็น และอาจมีการขยายวงเงิน QE หากแนวโน้มเศรษฐกิจย่ำแย่ลง โดยธนาคารจะใช้มาตรการ QE จนกว่าภาวะเงินเฟ้อมีทิศทางดำเนินไปอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ การปรับฐานลงของตลาดหุ้นสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ขณะที่การอ่อนค่าของดอลลาร์ก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองคำเช่นกัน โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.01% สู่ระดับ 93.418 เมื่อคืนนี้