สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเดินหน้าซื้อเก็งกำไร ซึ่งช่วยหนุนสัญญาทองคำปิดตลาดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 6.6 ดอลลาร์ หรือ 0.49% ปิดที่ 1,362.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 12.6 เซนต์ หรือ 0.72% ปิดที่ 17.615 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 16.3 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 1032.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 8.95 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 1097.40 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนยังคงเดินหน้าเข้าซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไร โดยปัจจัยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ได้กล่าวในการแถลงข่าวในการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า การที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงในระยะนี้ เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม หลังจากตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการแล้ว สัญญาทองคำร่วงลงในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิก เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังจากเดินทางถึงเมืองดาวอสเพื่อเข้าร่วมประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) เมื่อวานนี้ว่า เขาสนับสนุนการแข็งค่าของดอลลาร์ และเชื่อว่าดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นอีก
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังกล่าวถึงกรณีที่นายสตีเวน มูนชิน รมว.คลังได้กล่าวในเชิงสนับสนุนการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ว่า สื่อมวลชนอาจตีความคำพูดของนายมนูชินที่ผิดไปจากวัตถุประสงค์ที่เขาต้องการจะสื่อ
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค. และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2560