ราคาทองฟิวเจอร์ดิ่งกว่า 1% ใกล้หลุดระดับ 1,330 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยถูกกระทบจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งหนุนคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปีนี้
ณ เวลา 23.46 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเลกทรอนิกส์ ร่วงลง 15.70 ดอลลาร์ หรือ 1.16% สู่ระดับ 1,332.20 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น จะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ดอลลาร์พุ่งขึ้นในวันนี้ ตามการดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ โดยขานรับตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยหนุนการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดในปีนี้
ณ เวลา 23.18 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.90% สู่ระดับ 110.37 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.35% สู่ระดับ 137.31 เยน และร่วงลง 0.53% สู่ระดับ 1.2442 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.66% สู่ระดับ 89.25
ตลาดกังวลว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ในปีนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่พุ่งขึ้นเกินคาด และตัวเลขค่าแรงของแรงงานที่ดีดตัวขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 9 ปี ขณะที่อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
นักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขรายได้หรือค่าแรงของแรงงานที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 9 ปีในเดือนม.ค. จะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดภายใต้การนำของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดคนใหม่ที่จะเข้ารับตำแหน่งในวันจันทร์หน้า ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้มากกว่า 3 ครั้งที่มีการคาดการณ์กันก่อนหน้านี้ เพื่อรับมือกับเงินเฟ้อที่จะดีดตัวขึ้น
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐทะยานขึ้นในวันนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 30 ปีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 3% แตะ 3.074% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ทะยานขึ้นแตะ 2.83% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี หลังจากที่ได้ดีดตัวขึ้น 0.31% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบรายเดือนนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2559 ซึ่งในเดือนดังกล่าว อัตราผลตอบแทนพุ่งขึ้น 0.53%
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานวันนี้ว่า ตัวเลขค่าแรงต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 9 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.3% และเพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2552
ตัวเลขค่าแรงต่อชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ
นายจอห์น บริกก์ หัวหน้านักวิเคราะห์จากแน็ทเวสต์ มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า ตัวเลขค่าแรงเป็นปัจจัยที่ผลักดันตลาดพันธบัตร และนักลงทุนจะจับตาตัวเลขดังกล่าวในเดือนหน้าเพื่อดูว่าค่าแรงจะยังคงพุ่งขึ้นหรือไม่
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนม.ค. โดยปรับตัวขึ้น 200,000 ตำแหน่ง ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี
กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ย. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 216,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 252,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขจ้างงานในเดือนธ.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 148,000 ตำแหน่ง
กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่าในเดือนม.ค. ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 196,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 4,000 ตำแหน่ง
ส่วนตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งแสดงสัดส่วนของกำลังแรงงานต่อจำนวนประชากรทั้งหมด ทรงตัวที่ระดับ 62.7%