สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 ก.พ.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ชะลอตัวลง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทั้งดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรต่างก็พุ่งขึ้นหลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดในปีนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,332.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 3 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 16.587 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 2.80 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 999.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 11 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 1,033.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.36% สู่ระดับ 89.726 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่า จะเพิ่มความน่าดึงดูดของสัญญาทองคำ โดยทำให้สัญญามีราคาลดลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำยังได้รับปัจจัยหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ชะลอตัวลงเมื่อคืนนี้ หลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ แสดงความเห็นว่า เฟดจะต้องใช้ความระมัดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไปในปีนี้ เนื่องจากจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ นอกจากนี้ นายบุลลาร์ดยังกล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อสหรัฐยังคงอยู่ในระดับต่ำ และมีแนวโน้มต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟดต่อไปอีกหลายปี
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.919% เมื่อคืนนี้ ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.201%