ราคาทองฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้นในวันนี้ โดยนักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกที่ว่าสหรัฐจะจุดปะทุการทำสงครามการค้า หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมในสัปดาห์หน้า
ณ เวลา 23.57 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเลกทรอนิกส์ ดีดตัวขึ้น 15.50 ดอลลาร์ หรือ 1.19% สู่ระดับ 1,320.70 ดอลลาร์/ออนซ์
ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ ระบุว่า การทำสงครามการค้าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับสหรัฐ และเป็นเรื่องง่ายที่จะชนะ
"เมื่อประเทศหนึ่ง (สหรัฐ) ต้องสูญเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์ในการทำการค้ากับแทบทุกประเทศ การทำสงครามการค้าก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และชนะได้ง่าย ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราต้องสูญเสียเงิน 1 แสนล้านดอลลาร์กับบางประเทศ เราก็อย่าได้ทำการค้าต่อไปอีก เราก็จะชนะอย่างยิ่งใหญ่ นี่เป็นเรื่องง่ายๆ" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความดังกล่าว หลังจากที่เมื่อวานนี้ เขาได้ประกาศว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และอลูมิเนียม 10% ในสัปดาห์หน้า โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะปกป้องภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ปธน.ทรัมป์ไม่ได้เปิดเผยรายชื่อประเทศที่จะถูกเรียกเก็บภาษีดังกล่าว และระยะเวลาที่สหรัฐจะดำเนินการเก็บภาษี
ทางด้านนักวิเคราะห์เตือนว่า การเรียกเก็บภาษีนำเข้าแทนที่จะช่วยปกป้องการจ้างงานในสหรัฐ จะกลับเป็นปัจจัยทำลายการจ้างงานในประเทศ เนื่องจากการเก็บภาษีจะทำให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น และจะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้เหล็กและอลูมิเนียม ซึ่งก็คืออุตสาหกรรมรถยนต์และน้ำมันของสหรัฐ
นอกจากนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงในวันนี้ ได้เพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ดอลลาร์ร่วงลงเทียบเยนและยูโรในวันนี้ จากความวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้า
ณ เวลา 20.57 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.75% สู่ระดับ 105.43 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.45% สู่ระดับ 129.73 เยน และดีดตัวขึ้น 0.30% สู่ระดับ 1.2304 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.30% สู่ระดับ 90.05