สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในซีเรียได้ส่งผลให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่า สหรัฐจะยิงขีปนาวุธถล่มซีเรีย เพื่อตอบโต้จากการที่รัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 14.10 ดอลลาร์ หรือ 1.05% ปิดที่ 1360.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 17.2 เซนต์ หรือ 1.04% ปิดที่ 16.768 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.2 ดอลลาร์ หรือ 0.13% ปิดที่ 934.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 11.20 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 960.95 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ ระบุว่า สหรัฐจะยิงขีปนาวุธถล่มซีเรีย เพื่อตอบโต้จากการที่รัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชน
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังทรัมป์ทวีตข้อความว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและรัสเซียกำลังตกต่ำลงเป็นประวัติการณ์ สืบเนื่องมาจากการที่สหรัฐเชื่อว่า รัสเซียอยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชนในซีเรีย
ทางด้าน Eurocontrol ซึ่งเป็นองค์กรบริหารการบินของยุโรปที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงบรัสเซลส์ ออกคำเตือนอย่างเร่งด่วนเมื่อวานนี้ ให้สายการบินระมัดระวังการโจมตีด้วยขีปนาวุธขณะบินอยู่เหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยระบุว่า มีแนวโน้มที่จะมีการโจมตีทางอากาศต่อซีเรียภายในเวลา 72 ชั่วโมง
วิกฤตการณ์ในซีเรียเกิดขึ้นนับตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กลุ่มนักเคลื่อนไหวรายงานว่า กองกำลังของซีเรียได้ใช้ก๊าซคลอรีนโจมตีเมืองดูมา ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มกบฎในเขตกูตาตะวันออก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 40 ราย แต่ทางรัฐบาลซีเรียได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว