สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 เม.ย.) โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวลงของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กเนื่องจากความวิตกกังวลในเรื่องผลกระทบจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ตลอดจนความไม่แน่นอนของสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ซึ่งอาจเป็นผลลบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 6 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ปิดที่ 1,347.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 18.5 เซนต์ หรือ 1.12% ปิดที่ 16.658 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1.7 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ 933.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 2.2% ปิดที่ 980.95 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับปัจจัยหนุนจากดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ที่ร่วงลง 122.91 จุด หรือ -0.50% อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย ส่งผลให้นักลงทุนหันมาซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ก่อนหน้านี้ นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการโจมตีด้วยอาวุธเคมีในซีเรีย
นายสตีเฟน ดูจาร์ริค โฆษกของนายกูเตอร์เรสได้เปิดเผยในแถลงการณ์ว่า "เลขาธิการ UN มีความกังวลเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์รุนแรงครั้งใหม่ที่เกิดขึ้นในเมืองดูมา ซึ่งตั้งอยู่ในเขตกูตาตะวันออกของซีเรีย เมื่อ 36 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลที่ระบุว่า มีการใช้อาวุธเคมีกับพลเรือนในเมืองดูมา"
"แม้ว่าทาง UN จะไม่ได้อยู่ในจุดที่จะตรวจสอบรายงานเหล่านี้ แต่เลขาธิการ UN ก็ได้กล่าวอย่างชัดเจนว่า การใช้อาวุธเคมีใดๆก็ตาม ถือเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ และจำเป็นต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียด" นายดูจาร์ริคกล่าว พร้อมระบุว่า "เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งที่พลเรือนจะต้องได้รับความคุ้มครอง โดยเลขาธิการ UN ได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพต่อกฎหมายสิทธิมนุษยชน ซึ่งรวมถึงสิทธิในการเข้าถึงทุกพื้นที่ในซีเรียเพื่อนำความช่วยเหลือด้านมนุษยชนไปยังประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือ เพื่อให้เป็นไปตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาชาติ (UNSC)"