สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 มิ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากการพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้ส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่นหุ้น
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1.6 ดอลลาร์ หรือ 0.12% ปิดที่ 1,303.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 12.1 เซนต์ หรือ 0.72% ปิดที่ 16.815 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 7.3 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 900.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 5.60 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1009.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.29% แตะระดับ 93.365 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่า จะเพิ่มความน่าดึงดูดของสัญญาทองคำ โดยทำให้สัญญามีราคาลดลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.964% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นลงสู่ระดับ 3.111% เมื่อคืนนี้
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 12-13 มิ.ย. โดยตลาดการเงินคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง