ราคาทองฟิวเจอร์ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยในวันนี้ โดยราคายังคงถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และความกังวลเกี่ยวกับการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
ณ เวลา 23.27 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเลกทรอนิกส์ ขยับขึ้น 1.20 ดอลลาร์ หรือ 0.1% สู่ระดับ 1,201.00 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์ที่แข็งค่า จะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นในกรอบ 111 เยนในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนเพิ่มความต้องการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง โดยได้แรงหนุนจากความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรป (EU) เกี่ยวกับการแยกตัวของอังกฤษออกจาก EU (Brexit)
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้ปัจจัยบวกจากการที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า สหรัฐกำลังพิจารณาจัดการประชุมสุดยอดเป็นครั้งที่สองระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ
ณ เวลา 19.44 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.24% สู่ระดับ 111.38 เยน ขณะที่ยูโรขยับขึ้น 0.06% สู่ระดับ 128.88 เยน และร่วงลง 0.19% สู่ระดับ 1.1570 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.14% สู่ระดับ 95.28
ทั้งนี้ เฟดจะประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 25-26 ก.ย. ซึ่งตลาดการเงินคาดการณ์กันว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ ก่อนที่จะปรับขึ้นอีกครั้งในการประชุมเดือนธ.ค. หลังจากที่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.และมิ.ย.
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนส.ค. โดยเพิ่มขึ้น 201,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 191,000 ตำแหน่ง
ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.9% ในเดือนส.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 3.8%
ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 10 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.4% จากระดับ 0.3% ในเดือนก.ค. และพุ่งขึ้น 2.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2552 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.7%
ทั้งนี้ ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ