สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ก.ย.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยที่ช่วยดึงดูดแรงซื้อทองคำ และช่วยหนุนสัญญาทองคำปิดที่เหนือระดับ 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์ ติดต่อกันเป็นวันที่ 8
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3 ดอลลาร์ หรือ 0.25% ปิดที่ 1,211.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.5 เซนต์ หรือ 0.18% ปิดที่ 14.305 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 12.30 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 834.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 13.40 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 1044.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.66% แตะระดับ 93.9145 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงนั้น จะเพิ่มความน่าดึงดูดของทองคำ โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
อย่างไรก็ตาม การพุ่งขึ้นของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก และการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้านั้น ส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่นการลงทุนในตลาดหุ้น
ส่วนสัญญาพลาตินัมพุ่งขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีนี้ และทำสถิติปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 7 วันทำการ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ความต้องการพลาตินัมในตลาดโลกจะแข็งแกร่งขึ้น โดยพลาตินัมเป็นโลหะสำคัญที่ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินเป็นเชื้อเพลิง