สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่สอง ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 6.00 ดอลลาร์ หรือ 0.49% ปิดที่ 1,226.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 14.5 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 14.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 2.1 ดอลลาร์ หรือ 0.24% ปิดที่ 871.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 26.30 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 1095.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง เช่นหุ้น หลังจากดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการเมื่อคืนนี้ ก่อนที่ตลาดจะรู้ผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ
ทั้งนี้ การเลือกตั้งกลางเทอมจะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐทั้งสภาจำนวน 435 คน ขณะที่เลือกสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 35 คนจากทั้งหมด 100 คน รวมทั้งเลือกผู้ว่าการรัฐ 36 รัฐจากทั้งหมด 50 รัฐ
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า พรรคเดโมแครตจะสามารถครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ส่วนพรรครีพับลิกันครองเสียงส่วนใหญ่ในวุฒิสภา ซึ่งหากผลการเลือกตั้งออกมาตามคาด ก็จะเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้น
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังมองว่า หากพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากได้ทั้ง 2 สภา สิ่งนี้ก็จะทำให้ตลาดหุ้นพุ่งขึ้นในระยะสั้น เนื่องจากจะทำให้รัฐบาลมีแนวโน้มออกมาตรการปรับลดอัตราภาษีต่อไป แต่หากพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากทั้ง 2 สภา ก็จะทำให้ตลาดหุ้นถูกกดดัน เนื่องจากจะทำให้การผ่านนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของปธน.ทรัมป์ เป็นไปอย่างลำบาก