สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการเมื่อคืนนี้ (7 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังพรรคเดโมแครตสามารถครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.40 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1228.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 6.9 เซนต์ หรือ 0.48% ปิดที่ 14.569 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 7.3 ดอลลาร์ หรือ 0.84% ปิดที่ 878.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 25.40 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 1120.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.23% แตะระดับ 96.05 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงนั้น จะเพิ่มความน่าดึงดูดของทองคำ โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่นๆ
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงนั้น มาจากความกังวลที่ว่า การที่พรรคเดโมแครตสามารถครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร จะสร้างความยากลำบากต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการผ่านนโยบายต่างๆ รวมทั้งอาจมีการเพิ่มการตรวจสอบกรณีที่รัสเซียเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2559
นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้