สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 พ.ย.) เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในอังกฤษส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ขณะที่สัญญาพัลลาเดียมพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า ความต้องการพัลลาเดียมซึ่งเป็นโลหะที่ใช้ในแวดวงอุตสาหกรรมนั้น จะเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 4.90 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,215.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 18.3 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 14.263 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 11.5 ดอลลาร์ หรือ 1.38% ปิดที่ 845.3 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 27.20 ดอลลาร์ หรือเกือบ 2.5% ปิดที่ 1,137.40 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสถานการณ์การเมืองในอังกฤษเผชิญกับความไม่แน่นอน อันเนื่องมาจากการที่รัฐมนตรีในรัฐบาลของนางเทเรซา เมย์ ลาออกเพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยต่อข้อตกลง Brexit ที่นางเมย์ได้ยื่นต่อ EU โดยรัฐมนตรีที่ประกาศลาออกแล้วในขณะนี้รวมถึงนางซูเอลลา เบรเวอร์แมน รัฐมนตรีช่วยฝ่ายกิจการ Brexit, นางแอน-มารี เทรเวลแยน รัฐมนตรีช่วยศึกษาธิการ, นายโดมินิค แรบ รัฐมนตรีฝ่ายกิจการ Brexit และนางเอสเธอร์ แมคเวย์ รัฐมนตรีฝ่ายกิจการบำนาญของอังกฤษ
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.11% แตะระดับ 96.85 เมื่อคืนนี้
ส่วนสัญญาพัลลาเดียมพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากการคาดการณ์ที่ว่า แนวโน้มที่สดใสของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีนนั้น จะทำให้ความต้องการโลหะพัลลาเดียมปรับตัวขึ้นด้วย