สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคบริการสหรัฐขยายตัวต่ำกว่าคาดในเดือนธ.ค.
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 4.10 ดอลลาร์ หรือ 0.32% ปิดที่ 1,289.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 3 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 15.756 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 2.9 ดอลลาร์ หรือ 0.35% ปิดที่ 824.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 5.80 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 1240.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.57% สู่ระดับ 95.65 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงนั้น จะเพิ่มความน่าดึงดูดของทองคำ โดยทำให้สัญญาทองคำมีราคาถูกลงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่นๆ
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงนั้น มาจากผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ซึ่งพบว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 57.6 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับตำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 59.0 หลังจากแตะระดับ 60.7 ในเดือนพ.ย.
อย่างไรก็ดี ดัชนีภาคบริการของสหรัฐยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ
ทั้งนี้ ดัชนีภาคบริการของ ISM ประกอบด้วยอุตสาหกรรม 17 กลุ่ม ซึ่งรวมถึงอสังหาริมทรัพย์ การขนส่ง การก่อสร้าง และเหมืองแร่