ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวลงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ทำไว้เมื่อวานนี้ โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์
ณ เวลา 00.43 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 5.50 ดอลลาร์ หรือ 0.42% สู่ระดับ 1,315.70 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองร่วงลงแตะระดับ 1,316.43 ดอลลาร์ในการซื้อขายวานนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. และปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน
ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น จะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ณ เวลา 00.50 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.03% สู่ระดับ 96.18
นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะคาดการณ์ผลการเจรจาการค้ากับจีน โดยจีนจำเป็นต้องดำเนินการมากกว่าแค่เพียงซื้อสินค้าจากสหรัฐมากขึ้น ก่อนที่สหรัฐและจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าอย่างถาวร
"เราสามารถแข่งขันกับประเทศใดก็ได้ในโลก แต่เราต้องมีการบังคับใช้กฎระเบียบเพื่อให้มั่นใจถึงผลลัพธ์ในตลาด ไม่ใช่การใช้ระบบทุนนิยมที่มีรัฐเป็นผู้บงการ และการขโมยเทคโนโลยีเป็นตัวตัดสินใจผู้ชนะ" นายไลท์ไฮเซอร์กล่าวต่อคณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎร (House Ways and Means Committee)
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2561 โดยมีการขยายตัว 2.6% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.3%
ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 3.4% ในไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว หลังจากพุ่งแตะ 4.2% ในไตรมาส 2 และแตะระดับ 2.2% ในไตรมาส 1 ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 2.9% ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2558 และสูงกว่า 2.2% ในปี 2560 แต่ต่ำกว่าระดับ 3% ซึ่งเป็นเป้าหมายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
การขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น 2.8% ขณะที่การใช้จ่ายของภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 6.7% ส่วนการลงทุนในสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้น 9.71 หมื่นล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี การขาดดุลการค้าได้กระทบต่อ GDP ในไตรมาส 4 คิดเป็นสัดส่วน 0.22% ขณะที่การปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) กระทบต่อ GDP ราว 0.1%