สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 มี.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ซึ่งทำให้ทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากเกิดเหตุกราดยิงที่มัสยิด 2 แห่งในเมืองไครส์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์เมื่อวานนี้ และนักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าเกี่ยวกับการที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 7.80 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,302.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ปรับตัวขึ้น 15.30 เซนต์ หรือ 1.01% ปิดที่ 15.324 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. บวก 4.70 ดอลลาร์ หรือ 0.57% ปิดที่ 831.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 3.90 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1518.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.14% แตะที่ 96.59 เมื่อคืนนี้
นักลงทุนยังเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังมีรายงานข่าวว่า เกิดเหตุกราดยิงที่มัสยิด 2 แห่งในเมืองไครส์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์เมื่อวานนี้ โดยล่าสุดมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 49 ราย และมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 40 ราย
นางเจซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ แถลงว่า เหตุกราดยิงที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้เป็นการก่อการร้าย โดยการโจมตีครั้งนี้มีการวางแผนไว้อย่างรอบคอบ
นอกจากนี้ นักลงทุนเข้าซื้อทอง เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์ Brexit ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าต่อไป หลังรัฐสภาอังกฤษลงมติล่าสุดด้วยคะแนนเสียง 412-202 เสียงเมื่อวันพฤหัสบดี เรียกร้องให้สหภาพยุโรป (EU) ขยายกำหนดเวลาการแยกตัวออกไปจากเดิมในวันที่ 29 มี.ค.นี้