สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (11 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 4 วันทำการ นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเทยังขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ Brexit
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 20.60 ดอลลาร์ หรือ 1.57% ปิดที่ 1,293.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 37.7 เซนต์ หรือ 2.47% ปิดที่ 14.867 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 13.60 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 895.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ดิ่งลง 30.60 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 1,332.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำร่วงลงหลุดจากระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.22% แตะที่ 97.13 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่า จะลดความน่าดึงดูดของทองคำ โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ดอลลาร์แข็งค่านั้น มาจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งระบุว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 8,000 ราย สู่ระดับ 196,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2512 ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) พุ่งขึ้น 0.6% ในเดือนมี.ค.เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากผู้นำของสหภาพยุโรป (EU) มีมติให้อังกฤษขยายกำหนดเส้นตายการถอนตัวออกจาก EU (Brexit) เป็นวันที่ 31 ต.ค. ซึ่งจะช่วยให้อังกฤษหลีกเลี่ยงสถานการณ์ Brexit ที่ไม่มีการทำข้อตกลง